ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อุปกรณ์ที่จำเป็น ต่อการเลี้ยงปลาสวยงาม

อุปกรณ์ที่จำเป็น  ต่อการเลี้ยงปลาสวยงาม

การเลี้ยงปลาตู้นั้น  
     มีวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้อย่างมาก  อีกทั้งในปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ ในการเลี้ยงปลาตู้ให้เลือกหลากชนิด  ดังนั้นเราจึงควรไตร่ตรองและคิดให้ดีว่าอุปกรณ์ชิ้นใดจำเป็น  หรือไม่ต่อการเลี้ยงปลาตู้  การใส่อุปกรณ์หรือสิ่งประดับมากมายลงในตู้นั้นนับว่าเป็นอันตรายต่อปลาอย่างยิ่ง  เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรเน้นถึงความสวยงามในเรื่องของการประดับตู้ปลามากกว่าการมีชีวิตอยู่ของปลา  อีกอย่างหนึ่งที่ผู้เลี้ยงควรพิจารณาก็คือ  การดูแลรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ  ให้มีประสิทธิภาพ  และ  มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน  ทั้งนี้ก็เพื่อดำรงชีวิตอยู่ของปลาที่น่ารักของเรานั่นเอง
     1.  ตู้ปลา
    ก่อนที่เราจะเลือกซื้อตู้ปลานั้น  เราต้องคำนึงถึงชนิดและขนาดของปลาที่จะเลี้ยงว่ามีขนาดใหญ่หรือเล็กเพียงใด  ถ้าจะเลี้ยงปลากัดหรือปลาเงินปลาทอง  ก็สามารถเลือกตู้ที่มีขนาดจะเลี้ยงปลากัดหรือปลาเงินปลาทอง  ก็สามารถเลือกตู้ที่มีขนาดเล็กได้  แต่ถ้าจะเลือกเลี้ยงปลาที่มีลำตัวยาวอย่างเช่นปลาอะโรวาน่าต้องใช้ตู้ที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้ปลาว่ายน้ำได้สะดวก
     เมื่อซื้อตู้ปลาตามขนาดที่เหมาะสมกับปลาแล้ว  ต้องทำความสะอาดตู้ปลากันก่อน  การทำความสะอาดตู้ปลาที่ถูกต้องนั้นจะต้องใช้น้ำเกลือล้าง  วิธีการคือนำตู้ปลาที่ซื้อมาตั้งไว้ในที่ที่เหมาะสม  จากนั้นเทน้ำลงไปในตู้โดยใช้น้ำที่มีอุณหภูมิปกติอย่าใช้น้ำร้อนเป็นอันขาด  เพราะน้ำร้อนจะทำให้กระจกขยายตัวและเกิดการแตกร้าวขึ้นได้  หรืออาจจะทำให้ตัวยาแนวหรือกาวที่เชื่อมระหว่างกระจกแต่ละแผ่นของตู้เกิดการเสื่อมหรือขยายตัว  ทำให้ตู้ปลาเกิดรั่วได้
     ข้อควรระวัง  อย่าพยายามเคลื่อนย้ายตู้ในขณะที่มีน้ำอยู่เต็มตู้เพราะอาจได้รับการกระทบกระเทือน  หลังจากใส่น้ำตู้ปลาเต็มแล้ว  ให้สังเกตดูว่ามีน้ำรั่วซึมออกมาตรงไหนบ้าง  ถ้ามีน้ำรั่วซึมออกมาก็สามารถยาแนวใหม่  หรือเอาไปเปลี่ยนเป็นตู้ใหม่จากร้านค้าที่ซื้อมาได้เช่นกัน
     ในกรณีที่ตู้ปลาไม่มีปัญหาให้ถ่ายน้ำออก   แต่ให้เหลือเอาไว้ประมาณ  1/10  ของความสูงตู้ปลา   จากนั้นนำเกลือ
(ใช้ได้ทั้งเกลือป่นและเกลือเม็ด )  เติมลงไปพอประมาณ  คนให้ละลายจนหมด  แล้วนำผ้าหรือฟองน้ำเช็ดถูตู้ปลาให้สะอาด  หลังจากนั้นยังไม่ต้องเทน้ำทิ้ง  ให้เติมน้ำลงไปอีกเต็มตู้  แล้วตั้งทิ้งไว้ประมาณ  2  ชั่วโมงค่อยถ่ายน้ำทิ้งทั้งหมด
     2.  น้ำ
     น้ำที่ใช้เลี้ยงปลาตู้ได้ดีที่สุดคือน้ำประปา  แต่น้ำประปาที่จะนำมาใช้นี้ต้องผ่านกรรมวิธีกำจัดคลอรีนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียก่อน  เพราะคลอรีนเป็นสารฆ่าเชื้อโรคซึ่งเป็นอันตรายต่อปลาอย่างมาก  การกำจัดคลอรีนออกจากน้ำประปานั้นไม่ใช่เรื่องยาก  ให้รองน้ำจากก๊อกใส่ถังหรืออ่างที่สะอาด ๆ  ให้พอเพียงที่จะใช้ใส่ในตู้ปลา  แล้วตั้งน้ำที่รองทิ้งไว้ในที่มีแสงแดดส่องถึงประมาณ  1-2  วัน  แค่นี้ก็สามารถนำน้ำที่เตรียมไว้มาใช้เลี้ยงปลาตู้ได้แล้ว
     หลายท่านอาจจะใช้น้ำบ่อหรือน้ำบาดาลเลี้ยงปลา  เพราะคิดว่าเป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ  จริง ๆ  นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก  เพราะน้ำในบ่อหรือน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะมีจุลินทรีย์อยู่มากมาย  ซึ่งจุลินทรีย์นี้จะสามารถทำอันตรายต่อปลาหรือทำให้ปลาติดเชื้อโรคได้ง่าย  เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้ท่านใช้น้ำประปาที่กำจัดคลอรีนตามกระบวนการดังกล่าวจะดีกว่า
     ข้อควรคำนึงถึงก่อนที่ท่านจะเติมน้ำลงในตู้  ท่านควรจัดวางตู้ให้อยู่ในที่ที่ท่านเลือกเอาไว้แล้ว  จากนั้นจัดแต่งตู้ด้วยวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ  ที่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย  แล้วจึงเติมน้ำลงไปห้ามเคลื่อนย้ายตู้ที่เติมน้ำไว้เต็มแล้วเด็ดขาด  เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ตู้ปลาได้
     3.  วัสดุตกแต่ง  ภายในตู้ปลา
     ในปัจจุบันถ้าหากเราเดินตามตลาดนัดที่มีปลาหรืออุปกรณ์ในการเลี้ยงปลาตู้ขาย  เรามักจะพบวัสดุตกแต่งสีสันสวยงามแปลกใหม่วางขายมากมาย  สิ่งเหล่านี้นับว่าไม่มีประโยชน์หรือบางครั้งก็เป็นโทษแก่สุขภาพปลาตู้ของท่านด้วย  แม้แต่พวกเปลือกหอยตามธรรมชาติ  หรือก้อนกรวด  หิน  ตามชายหาดก็ตามถ้าจะถามว่าทำไม  ในเมื่อเป็นของที่มาจากธรรมชาติแล้วยังมี อันตรายต่อปลาอีกหรือ  ตอบว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นก้อนกรวดหรือเปลือกหอย  ทั้งที่เป็นและไม่เป็นของธรรมชาติก็ตามจะก่อให้เกิดอันตรายต่อปลาได้  เพราะมันจะมีเชื้อโรคอย่างพวกจุลินทรีย์หรือสารพิษอื่น ๆ ติดค้างอยู่
เมื่อใส่ไว้ในตู้ปลา  สารเหล่านี้จะละลายออกมาเป็นอันตรายต่อปลาอย่างมาก  อีกทั้งการที่เราใส่วัสดุเข้าไปในตู้มากมาย  จะทำให้เกิดซอกเล็กซอกน้อยในตู้เยอะ  เวลาที่เราให้อาหารปลา  เศษอาหารจะลงไปติดกับบรรดาซอกเล็กซอกน้อยเหล่านั้น  ทำให้น้ำในตู้เน่าเสียเร็วขึ้น  และยากต่อการดูดสิ่งสกปรกออกจากตู้ปลา  แต่ใช่ว่าจะไม่สารมารถนำสิ่งใด ๆ  ไปไว้ในตู้ปลาได้เลย
     อย่างหนึ่งที่ขอแนะนำให้ใส่เป็นพื้นปูที่ตู้ปลาก็คือทรายหยาบ  และต้องเป็นทรายหยาบอย่างเดียวเท่านั้น  แต่ก่อนจะนำไปใส่ในตู้ปลาควรทำความสะอาดเสียก่อน  โดยการนำทรายหยาบใส่ภาชนะ  เช่นถ้วยใบใหญ่ ๆ  แล้วให้ใส่น้ำที่ต้มเดือด ๆ  ลงไปเขย่าทรายให้เปียกน้ำจนทั่ว  จากนั้นเทน้ำทิ้ง  แล้วเทน้ำลงไปอีกจนท่วมทรายขึ้นมาประมาณ  6  นิ้ว  และนำไปตั้งไฟต้มจนน้ำเดือด  แล้วเคี่ยวให้ทั่วถึงประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนเทน้ำทิ้ง  และล้างด้วยน้ำเย็นอีกทีหนึ่ง  ก็จะได้ทรายหยาบสำหรับปูพื้นตู้ปลาที่สะอาดและปราศจากอันตรายต่อปลาตู้  การเททรายลงไปในตู้นั้นควรเททรายในปริมาณที่สุงขึ้นมาจากพื้นตู้ประมาณ  1-2  นิ้ว  เท่านั้น  และควรเททรายให้อยู่ในลักษณะลาดเอียง  ไม่ว่าจะลาดเอียงจากด้านซ้ายไปด้านขวาหรือขวาไปซ้าย  และจากหลังไปด้านหน้าเพื่อความสวยงามและสามารถปลูกพืชได้
     เมื่อปูพื้นทรายเสร็จแล้ว  จึงเติมน้ำประปาปลอดคลอรีนที่เตรียมไว้ในข้อ  2.  ควรเทน้ำลงไปอย่างระมัดระวังเพราะเราได้ปูพื้นทรายไว้เรียบร้อยและควรเทน้ำลงไปประมาณครึ่งตู้ก่อน  เพราะเราจะต้องปลูกพืชน้ำกันอีก  หรือใส่วัสดุที่จำเป็นลงไปอีก
     ก่อนที่จะปลูกต้นไม้น้ำในตู้นั้นก็ต้องทำความสะอาดต้นไม้เหล่านี้ก่อน  เพราะถ้าไม่ทำความสะอาดก็อาจจะมีเชื้อโรคติดมากับต้นไม้  และเป็นอันตรายต่อปลาของเราได้
     การทำความสะอาดต้นไม้น้ำกระทำได้ไม่ยาก  โดยการเอาต้นไม้เหล่านั้นมาแช่ในน้ำเกลือเข้มข้นผสมกับด่างทับทิมประมาณ  1-2  ชั่วโมง  ไม่ควรนานกว่านี้  จากนั้นนำต้นไม้ไปล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง  แล้วจึงนำไปปลูกในตู้ที่เราเตรียมไว้  เมื่อปลูกต้นไม้น้ำเรียบร้อยแล้ว  เติมน้ำส่วนที่เหลือลงไปในตู้ให้เต็มเป็นอันว่าเสร็จสิ้น
     หากท่านต้องการจะใส่ก้อนหินหรือกรวดก้อนใหญ่สักก้อนหนึ่งหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยก็อาจทำได้  แต่ต้องทำความสะอาดเสียก่อน  วิธีทำความสะอาดทำเช่นเดียวกับการทำความสะอาดทรายหยาบดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น  ลักษณะของตู้ปลาและบรรยากาศในตู้ที่ดีนั้นควรมีที่ว่างให้ปลาได้แหวกว่ายประมาณ  80%  หรือมากกว่าก็ได้  ส่วนที่เหลือให้เป็นพื้นที่ของต้นไม้และวัสดุที่ใช้ในตู้ปลา
     4.  เครื่องปั๊ม  ออกซิเจน
     โดยธรรมชาติของแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น  น้ำจะมีการไหลเวียนอยู่เสมอ ๆ  ซึ่งการไหลเวียนของน้ำนี้ก็เป็นการเพิ่มเติมออกซิเจนเข้าไปในน้ำ  ทำให้สิ่งมีชีวิตรวมทั้งปลาที่อยู่ใต้น้ำได้รับออกซิเจนและดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งต่างกับตู้ปลา  น้ำในตู้ปลาเป็นน้ำที่นิ่ง  ถ้าเราไม่เพิ่มออกซิเจนลงไปก็จะทำให้สิ่งมีชีวิตใต้น้ำอยู่ได้ไม่นานเชื้อจุลินทรีย์ต่าง  ๆ  จะแพร่พันธุ์และทำให้น้ำเน่าเสีย  ปลาที่อยู่ในน้ำจะเสียชีวิตลงในที่สุดเพราะฉะนั้นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลี้ยงปลาตู้คือเครื่องปั๊มออกซิเจน  ซึ่งมีวางขายตามร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาทั่วไป  มีหลายขนาดและหลายราคา  เลือกใช้ตามขนาดของตู้ปลาของเรา  ซึ่งเครื่องปั๊มออกซิเจนนี้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า  เพราะฉะนั้นควรวางเครื่องปั๊มให้ห่างจากตู้ปลา  อย่าให้เปียกน้ำเพราะอาจเกิดอันตรายได้
     หลายคนคงจะเคยเห็นเครื่องปั๊มออกซิเจนแล้ว  ส่วนประกอบไม่มีอะไรมาก  จะมีตัวเครื่องปั๊มที่เราต้องเสียบปลั๊กไฟตรง
ด้านข้างของเครื่องปั๊มจะมีท่ออากาศซึ่งมีสายยางใส ๆ  เสียบอยู่  เรานำสายยางที่ต่อจากเครื่องปั๊มนี้ใส่ลงไปในตู้ปลา  ในส่วนปลายของสายยางที่ใส่ในตู้ปลานั้นอาจจะมีหัวพ่นอากาศในรูปแบบต่าง ๆ กันซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ
     5.  สวิง  ตักปลา
     เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเลี้ยงปลา  สวิงมีหลายขนาดหลายสี  การเลือกใช้สวิงตักปลานั้นต้องพิจารณาขนาดของปลาด้วย  ควรเลือกสวิงที่ใหญ่กว่าความยาวลำตัวของปลาประมาณ  1-2  นิ้ว  ถ้าปลามีลำตัวยาวประมาณ  5  ซม.  (2  นิ้ว)  ให้ใช้สวิงตักปลาที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  3-4  นิ้วก็ได้
     การใช้สวิงตักปลาที่ถูกต้องนั้น ทุกครั้งที่จะทำการตักปลาควรทำความสะอาดสวิงเสียก่อน อย่าใช้สวิงที่แห้ง ๆ ตักปลา
เพราะอาจจะมีเชื้อโรคต่าง ๆ  หรือฝุ่นละอองติดอยู่กับสวิงที่เราแขวนไว้ได้  วิธีทำความสะอาดนั้นแสนง่าย  ก่อนใช้ให้นำสวิงไปจุ่มน้ำสะอาด ๆ  สัก  2-3  ครั้งก็ใช้ได้แล้ว  ข้อสำคัญ  ถ้าหากมีปลาตัวหนึ่งตัวใดที่เราเลี้ยงแยกเอาไว้นอกตู้เพราะมันป่วยอย่าใช้สวิงร่วมกับปลาตัวปกติอื่น ๆ  เพราะจะทำให้ปลาที่ปกตินั้นติดโรคไปด้วย
     6.  อุปกรณ์ในการวัด  และควบคุมอุณหภูมิน้ำในตู้ปลา
     อุปกรณ์ในการวัดและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ  (เทอร์โมมิเตอร์และเทอร์โมสแตทส์)  เป็นอุปกรณ์ที่อาจจะไม่ค่อยจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงปลาตู้แบบธรรมดา ๆ  ที่ไม่ต้องใส่ใจกับอุณหภูมิของน้ำมากนัก  แต่ยังมีปลาบางชนิดที่ต้องใช้อุปกรณ์
ควบคุมอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงปลาตู้ในประเทศหนาวเพราะฉะนั้นอุปกรณ์เหล่านี้จึงไม่จำเป็นสำหรับบ้านเรานัก  แต่ถ้านักเลี้ยงปลาตู้ท่านใดต้องการที่จะใช้เพื่อให้ปลาตู้ของท่านสมบูรณ์แบบ  ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์สำหรับปลาตู้ทั่ว ๆ  ไป
   
         

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปลาอินทรีเน็ต

อินซิกนิส ตะเพียนหางสวยจากลุ่มน้ำอะเมซอน เมื่อวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนคงจะไปเที่ยวต่างจังหวัด จูงมือลูกๆหลานๆหรือบางคนอาจจะเกี่ยวก้อยคนรู้ใจเดินเล่นรับลมหนาวอยู่บนยอดดอย นอนดูดาวแล้วนับถอยหลังเริ่มต้นปีใหม่กันกระหนุงกระหนิง คิดแล้วผมก็อดที่จะอิจฉาไม่ได้ เพราะไม่มีโอกาสได้ทำแบบที่กล่าวมาเลยสักอย่าง วันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาผมทำตัวเป็นกบจำศีลอยู่กับบ้านไม่อยากออกไปไหน ใครมาชวนก็ไม่ไป ไม่อยากจะบอกว่าเงินไม่มี(ฮา) แต่ก็ใช่ผมจะไม่หาที่เที่ยวเอาเลยในช่วงวันหยุดยาวๆแบบนี้ เพราะผมไปเดินเล่นที่ตลาดธนบุรีหรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า “สนามหลวง2” ไปในครั้งนี้ผมเองก็ได้ปลาติดไม้ติดมือกลับมาบ้านหลายตัวอยู่เหมือนกัน รวมถึงตู้ปลาอีกหนึ่งชุด เดินเล่นไปเรื่อยๆสบายๆเพราะว่าวันหยุดยาวๆแบบนี้ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดและคนมาเดินก็น้อย ไม่เบียดเสียดนี่ล่ะสวรรค์ของผม ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านขายปลาร้านหนึ่ง และกำลังเลือกซื้อปลาหมอสีตัวน้อยๆและปลาหมูลายเฆมและหมูอินโด ขณะนั้นเองหูผมก็ได้ยินเสียงลูกค้าท่านหนึ่งที่มากับภรรยาและทารกน้อย(ทารกน้อยจริงๆเพราะอายุไม่น่าจะเกินสามเดือน

โรคของปลาสวยงาม จุดขาว

โรคจุดขาว เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับปลาสวยงามของคุณง่าย เรามารู้จักกันดีกว่า  เกิดจากปรสิตชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Ichthyophthirius multifiliis ปรสิตชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม ciliated protozoan คือมีขนรอบๆเซลล์ของมัน เราจะเรียกชื่อโรคที่เกิดจากเชื้อตัวนี้สั้นๆ ง่ายๆว่า อิ๊ค (Ich, Ick) หรือ โรคจุดขาว (white spot disease) นั่นเองครับ เชื้ออิ๊คนี่ มีขนาดประมาณ 0.5-1 มม. เลยทีเดียว ซึ่งเป็นขนาดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนครับ ซึ่งระยะดังกล่าวที่มองเห็นได้นี่ เป็นระยะโตเต็มวัยของเชื้ออิ๊ค ซึ่งจะพบอยู่บนร่างกายของปลาแทบทุกส่วนเลยครับ เมื่อเราส่องกล้องดูเชื้ออิ๊ค ลักษณะเด่นที่จะระบุตัวเชื้อได้ ก็คือ เชื้อมีลักษณะกลม มีขนขนาดเล็กรอบๆเซลล์ และมีนิวเคลียส โค้งงอเป็นรูปเกือกม้า  ระยะของเชื้อมีอยู่ 3 ระยะ  1.เชื้ออิ๊คในระยะโตเต็มวัยเราเรียกว่า  Trophont  นี้จะแทรกเข้าไปอาศัยอยู่ในระหว่างชั้นเนื้อเยื่อของปลาเคราะห์ร้ายทั้งในบริเวณผิวหนัง ครีบ เหงือก ดวงตา ฯลฯ จนโตเต็มที่ ระยะเวลาที่เชื้ออิ๊คจะเกาะอยู่บนตัวปลา กินเวลาตั้งแต่ 4-40 วัน ทั้งนี้ขึ้นกับอุณหภูมิน้ำ ยิ่งอุณหภูมิน้ำสูง มีแนวโน้มว่า เชื้อจะเจริญเติ

ปลาสวยงาม ที่น่าเลี้ยง

ปลาสวยงาม  ที่น่าเลี้ยง  ปลาที่มีลำตัวยาวไม่เกิน  5  เซนติเมตร ปลานีออนดำ  (BLACK  NEON  TETRA)           -  มีลำตัวยาวประมาณ  3  เซนติเมตร           -  ลำตัวเพรียวยาวและแบนข้าง  พื้นลำตัวสีน้ำตาล  บริเวณข้างลำตัวมีแถบลายสีขาวเรืองแสง  และมีพื้นดำคาดตามลำตัวจากใต้แผ่นเหงือกยาวจรดโคนหาง  ขอบตาด้านบนสีแดง           -  ปลาตัวผู้จะมีขนาดเล็กและเพรียวกว่าตัวเมีย  และมีสีสันสดใสกว่า           -  นีออนดำเป็นปลารักสงบ  ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง  ตื่นตกใจง่าย           -  ควรเลี้ยงรวมเป็นฝูงใหญ่  หรืออาจเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่นซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกันเพื่อจะได้ไม่ถูกปลาอื่นทำร้าย ชอบอยู่ในน้ำที่ใสสะอาด  และมีพุ่มไม้น้ำหรือสาหร่ายให้แหวกว่าย           -  ชอบกินอาหารสดมากกว่าอาหารสำเร็จรูป  แต่อาหารสำเร็จรูปก็ใช้เลี้ยงได้เช่นกัน           -  ปลาชนิดนี้แพร่พันธุ์โดยการวางไข่  วางไข่ครั้งละประมาณ  200  ฟอง  ไข่จะฟักเป็นตัวในเวลาประมาณ  1  วัน           ปลาหางนกยูง  (MILLIONS  FISH)           -  มีลำตัวยาวประมาณ  4-6  เซนติเมตร           -  ลำตัวเพรียวยาวและแบนข้าง  พื้นลำตัวมีสีน้ำตาลอม

ปลารัมมี่โนส

รัมมี่โนส คนที่ตั้งชื่อปลาตัวเล็กๆหน้าตาคล้ายปลาซิวชนิดนี้ว่า “รัมมี่โนส เตตร้า” หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “รัมมี่โนส” นั้น นอกจากจะช่างคิดแล้ว ยังต้องเป็นคนรวยอารมณ์ขันแน่ๆ ทำไมน่ะหรือ? หากมองเผินๆ ปลาอย่างรัมมี่โนสดูเป็นปลาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ยิ่งถ้าใครได้เห็นตอนที่เพิ่งใส่พวกมันลงไปในตู้ใหม่ๆคงต้องส่ายหัวกันทุกราย เพราะนอกจากจะไร้สีสันจนถึงขั้นจืดสนิทแล้ว ยังไม่มีจุดเด่นเอาเสียเลย แต่ถ้าลองปล่อยให้พวกมันใช้เวลาปรับตัวในตู้อีกสักหน่อย คนที่เคยเห็นในตอนแรกอาจต้องร้องด้วยความประหลาดใจว่า นี่หรือคือปลาที่ฉันเคยเห็น เพราะนอกจากส่วนหน้าที่แดงเด่นขึ้นมาผิดหูผิดตาเป็นสีเชอร์รี่สดแล้ว หางยังมีลายสีขาวสลับดำให้ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบ ยิ่งถ้าได้อยู่ในตู้ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้น้ำสีเขียวชอุ่ม สีของปลาชนิดนี้ก็จะยิ่งตัดกันมากขึ้นอีกหลายเท่า ทำให้คนที่นิยมเลี้ยงพรรณไม้น้ำทั้งหลายต่างนิยมนำปลาชนิดนี้ไปเลี้ยงเพื่อเพิ่มสีสันให้กับตู้ไม้น้ำใบงามของตน ถึงแม้ปลาชนิดนี้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแม่น้ำเนโกรและเมตา ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของมหานทีอย่างอะเมซอนที่เข้าถึงได้ยาก แต่ปลาจำนวนมากก็ถูกรวบรวมจากธรรมชาต